Popular Posts

Thursday, February 23, 2006

ที่ว่าง และความเข้าใจ

ถูกแล้ว เธอจะอยู่ด้วยกัน แม้ในความทรงจำอันสงัดของพระเป็นเจ้า
Ay, you shall be together even in the silent memory of God.


แต่ ขอให้มีช่องว่างในการอยู่ด้วยกันของเธอ
But let there be spaces in your togetherness,


และ ขอให้กระแสลมแห่งสวรรค์โบกโบยไปมาระหว่างเธอ
And let the winds of the heavens dance between you.

.
.
.

จงรักกัน แต่อย่าสร้างพันธะแห่งความรัก
Love one another, but make not a bond of love:


และขอให้ความรักนั้น เป็นเสมือนห้วงสมุทรอันเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างฝั่งแห่งวิญญาณของเธอทั้งสอง
Let it rather be a moving sea between the shores of you souls.


จงเติมถ้วยของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยเดียวกัน
Fill each other's cup but drink not from one cup.


จงแบ่งขนมปังของกันและกัน แต่อย่ากินจากก้อนเดียวกัน
Give one another of your bread but eat not from the same loaf.


จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง
Sing and dance together and be joyous,

แต่ขอให้แต่ละคนได้มีโอกาสอยู่อย่างโดดเดี่ยว
but let each on of you be alone,


ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว
Even as the strings of a lute are alone

แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน
though they quiver with the same music.


จงมอบดวงใจ แต่มิใช่ต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
Give your hearts, but not into each other's keeping.


เพราะหัตถ์แห่งชีวิตอมตะเท่านั้น ที่จะรับดวงใจของเธอไว้ได้
For only the hand of Life can contain your hearts.


และจงยืนอยู่ด้วยกัน แต่ว่าอย่าใกล้กันนัก
And stand together yet not too near together:


เพราะว่าเสาของวิหารนั้น ก็ยืนอยู่ห่างกัน
For the pillars of the temple stand apart,


และต้นโพธิ์ ต้นไทร ก็ไม่อาจเติบโตใต้ร่มเงาของกันได้
And the oak tree and the cypress grow not in each other's shadow.


The Prophet – Kahlil Jibran
ปรัชญาชีวิต – คาริล ยิบราน
แปลโดย ระวี ภาวิไล
สำนักพิมพ์ผีเสื้อ

**********************************************

บทกวีนี้อันงดงามนี้เองที่เป็นแนวทางให้กับวง Pause ในการแต่งเพลงเพลงหนึ่ง
คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากผู้ที่เคยได้ฟังผลงานของศิลปินนี้มาบ้าง จะนึกออกว่ามันคือเพลงอะไร
.
.

“ที่ว่าง” น่าจะเป็นเพลงไทยที่ผมชื่นชอบที่สุด
ไม่ใช่เพราะแต่งจากบทกวีของ คาริล ยิบราน
หรือเพราะโจ้เป็นคนร้อง
หากแต่ทุกครั้งที่ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกว่า
เราหาได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว
ยังมีคนที่เข้าใจเรายืนอยู่ใกล้ๆ
แม้ว่าเราจะไม่เคยรู้จัก
แม่ว่าท่านทั้งสองนั้นได้จากไปแล้ว
และแม้จะอยู่กันคนละช่วงเวลา
.
ยังมีคนที่เข้าใจเรา
แม้ว่าจะรักความสันโดษก็เป็นที่สุด
ความคิดของคนรอบข้างแทบจะไม่มีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของเรา
แต่เราก็ไม่ได้แปลกแยกเสียทีเดียว
.
การมีความรักหาได้หมายความว่า
จนสิ่งต่างๆ รอบตัวล้วนหมดความสำคัญลง
หรือการมีความรักจะต้องสร้างพันธะ
ต่อกันและกัน จนทำอะไรไม่ได้
หรือ ไม่ได้แม้แต่จะฝัน
.
เราต่างล้วนมีหน้าที่ และความฝัน
และการทำหน้าที่ให้ดี
ย่อมสะท้อนถึงคุณค่าแห่งการมีอยู่ของเรา
และการมีความฝัน
ย่อมเป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการมีชีวิตอยู่
.
***************************************
ผมพบที่คั่นหนังสือระหว่างที่ผมเขียนเรื่องนี้อยู่
มีข้อความสั้นๆ อยู่ประโยคหนึ่ง ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนผมไม่เข้าใจจริงๆ
ว่า ความหมายของมันคืออะไร
แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน จึงรู้ว่านี่อาจจะเป็นประโยคที่สะท้อน
ความคิด และความรู้สึกของเราในเวลานั้นออกมาได้ดีที่สุด
และน่าจะเป็นประโยคสุดท้ายสำหรับบทความนี้
.
“ข้าพเจ้ามุ่งทำงานให้สำเร็จ โดยมุ่งหวังมูลค่าสุดท้ายซี่งจ่ายด้วยรัก” – ไม่ทราบนามผู้แต่ง

ความสุขที่ถูกลืม

คนป่วยยังไม่ตาย
แล้วจะเศร้าไปใย
แม้นหากว่าจากไปแล้ว
ย่อมพ้นจากความทุกข์ทรมาน
แล้วจะเศร้าไปใย

คนเรายามทุกข์ใจ หาใช่ว่ามิอาจหาความสุขได้
คนเรายามสุขใจ หาใช่ว่าจะไม่มีความทุกข์
แม้นว่าทั้งสองจะเป็นสิ่งตรงข้าม

อยู่ที่ว่าเราเปิดใจยอมรับสภาพนั้น ณ เวลานั้น
ณ บริบทนั้น ได้มากแต่ไหน

เพราะทุกข์ หรือสุข อยู่ที่ใจเรานั่นเอง
.
.
.
คนตายหาใช่อยากให้เราเป็นทุกข์
เรายังจะต้องมีชีวิตอยู่
และอยู่อย่างมีชีวิต